ในปัจจุบันเทคโนโลยีด้านมัลติมีเดียมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเทคโนโลยีหลัก ๆที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในด้านมัลติมีเดียก็คือ เทคโนโลยีMoving Picture Experts Group หรือ MPEG ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นจากกลุ่มนักพัฒนา ระบบมาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอและออดิโอ ของ ISO/IEC บุคคลจากบริษัทพัฒนา นักวิจัยจากศูนย์วิจัยและมหาวิทยาลัย โดยกลุ่มนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2531ในประเทศแคนนาดา ซึ่งในปัจจุบันนี้เทคโนโลยี MPEG ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในด้านมัลติมีเดียและได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยี Moving Picture Experts Group หรือ MPEG คือการบีบอัดไฟล์วีดีโอ โดยมีการเข้ารหัสวีดีโอและออดิโอ โดยที่ไม่สูญเสียคุณภาพจากต้นฉบับซึ่งการเข้ารหัสแบบนี้เราจะเรียกว่า DCT โดยคุณภาพของการเข้ารหัสไฟล์วีดีโอและออดิโอนั้นจะขึ้นอยู่กับฮาร์แวร์และซอฟแวร์ที่นำมาเข้ารหัสด้วย แน่นอนว่าคุณภาพของ MPEG นั้นจะมีคุณภาพที่ดีกว่า VDO อย่างแน่นอน โดยการพัฒนา MPEG ในอดีตถึงปัจจุบันสามารถแบ่งออกมาได้ 4 ระดับด้วยกันคือ
1. MPEG 1 ซึ่งเป็นรูปแบบการเข้ารหัสวีดีโอและออดิโอในช่วงแรก ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะใช้กับการเล่นแบบวีดีโอซีดี(VCD) ซึ่งเป็นช่วงแรกในการพัฒนา MPEG 1 จะมีความละเอียดของภาพที่ 352 X 240 ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
2. MPEG 2 เป็นเทคโนโลยีที่มีการบีบอัดไฟล์วีดีโอและออดิโอที่ดีกว่า MPEG 1 ซึ่ง MPEG 2 นั้นถูกพัฒนาขึ้นในปี 1994 และถูกใช้งานกับดีวีดี (DVD) ซึ่งจะให้ภาพมีความละเอียดอยู่ที่ 720 x 480 และ 1280 x 720 ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และเสียงจะมีคุณภาพเทียบเท่ากับซีดี โดย MPEG 2 นี้เป็นเทคโนโลยีที่มีใช้งานจนถึงปัจจุบันแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการใช้งานเทคโนโลยี MPEG 4แล้วก็ตาม MPEG 2 ยังเป็นมาตราฐานของการเล่นมัลติมีเดียบนหน้าจอโทรทัศน์ในรูปแบบมาตรฐาน NTSC หรือแม้แต่ HDTV
3. MPEG 3 เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ค่อยได้ยินซักเท่าไรเนื่องจากคุณภาพของ MPEG 3 ไม่ได้หนีไปจาก MPEG 2 มากนักเลยทำให้ MPEG 3 ไม่เป็นที่นิยมและไม่ค่อยได้มีการพูดถึงมากนัก
4. MPEG 4 ซึ่งเป็นการเข้ารหัสไฟล์วีดีโอและออดิโอล่าสุดที่มีการพัฒนาให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ไฟล์ที่มีการเข้ารหัสและบีบอัดจะมีขนาดเล็กลงแต่คุณภาพของภาพและเสียงไม่ได้ด้อยไปกว่าต้นฉบับเลย ซึ่ง MPEG 4 นี้เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาจาก MPEG 1 และ MPEG 2 เพื่อรับรูปแบบมัลติมีเดียต่างๆ เช่น 3D โดยรูปแบบการพัฒนา MPEG 4 นั้นทางกลุ่มผู้พัฒนา MPEG นั้นมีการเปิดกว้างให้ผู้ที่พัฒนาซอฟแวร์เป็นผู้พัฒนาโปรแกรมที่ใช้จริงๆเอง โดยสามารถพัฒนาแค่บางส่วนของ MPEG 4 ก็ได้
ซึ่งในตอนนี้เทคโนโลยี MPEG 4นั้นมีการพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่องและได้เริ่มมีการนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ H.264 ที่มีการนำไปใช้ในระบบทีวีแบบใหม่ของญี่ปุ่นและยุโรป และฟอร์แมตแผ่นดิสก์ในยุคหน้าทั้ง Bluray กับ HD-DVD โดยอนาคตจะมีเทคโนโลยี MPEG 21 เป็นเทคโนโลยีการเข้าหัสและบีบอัดไฟล์ที่มุ่งเน้นการใช้งานมัลติมีเดียผ่านเครือข่ายมากยิ่งขึ้น